ห้องน้ำในโรงเรียนควรเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับนักเรียน แต่ความเป็นจริงกลับตรงกันข้าม เมื่อการแอบถ่ายกลายเป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นมากขึ้นทุกปี
พฤติกรรมการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวในสถานศึกษา ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ในยุคที่มือถือมีกล้องความละเอียดสูง การแอบบันทึกภาพโดยไม่ได้รับอนุญาตจึงเกิดขึ้นง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ส่วนตัวอย่างห้องน้ำ
แอบถ่ายนักเรียนหญิงในห้องน้ำ: พฤติกรรมอันตรายที่เริ่มจากคำว่า “แค่ลอง”
จากข่าวที่ปรากฏบ่อยครั้ง พบว่าผู้กระทำมักเริ่มจากการอยากลอง อยากแกล้ง หรืออยากอวดคลิปให้เพื่อนดู แต่กลับกลายเป็นการละเมิดสิทธิอย่างร้ายแรง ซึ่งในหลายกรณีเหยื่อไม่รู้ตัวเลยว่าถูกแอบถ่ายจนกระทั่งมีคลิปหลุดออกมาในกลุ่มไลน์ของโรงเรียน
เมื่อมีรายงานกรณี แอบถ่ายนักเรียนหญิงในห้องน้ำ ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ผู้คนจำนวนมากต่างเริ่มตื่นตัวกับประเด็นนี้ แต่ยังมีอีกมากที่มองเรื่องนี้เป็นเพียงข่าวชั่วคราว และมักโทษเหยื่อด้วยซ้ำว่า “ทำไมไม่ระวัง”
สิ่งที่สังคมควรตระหนักคือ การกระทำเช่นนี้ถือเป็นอาชญากรรม ไม่ใช่เรื่องตลก หรือเรื่อง “วัยรุ่นแกล้งกัน” อย่างที่เคยเข้าใจกันมาในอดีต
“กล้องในมือใครบางคน อาจกลายเป็นบาดแผลที่ไม่มีวันลบของอีกคนไปตลอดชีวิต”
Q&A: เรื่องควรรู้เกี่ยวกับการแอบถ่ายในโรงเรียน
Q: การแอบถ่ายในห้องน้ำโรงเรียนมีโทษแค่ไหน?
A: ผิดกฎหมายอาญาและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีโทษทั้งจำคุกและปรับ โดยเฉพาะถ้าเหยื่อเป็นผู้เยาว์ และการเผยแพร่คลิปยิ่งเพิ่มโทษหนักขึ้น
Q: เหยื่อควรทำอย่างไรเมื่อรู้ว่าตัวเองถูกแอบถ่าย?
A: ควรแจ้งครู ผู้ปกครอง และตำรวจทันที พร้อมเก็บหลักฐาน เช่น ลิงก์ หรือข้อความในกลุ่มแชท เพื่อดำเนินการทางกฎหมาย
Q: มีซีรีย์หรือภาพยนตร์ไหนนำเสนอเรื่องนี้บ้าง?
A: ซีรีย์เกาหลีอย่าง “Delete” และ “Who Are You” เคยหยิบประเด็นเรื่องการแอบถ่ายและละเมิดสิทธิในโรงเรียนมาเล่า โดยเน้นผลกระทบต่อสภาพจิตใจของเหยื่อและคนรอบข้างอย่างลึกซึ้ง